พิสูจน์
ผงล้างเครื่องซักผ้า
ใช้ได้จริงหรือไม่?
.
คลิกลิงค์ https://youtu.be/JrhGBlBEmF4?si=HnJL1cA6zjakhOE8
.
ผงล้างเครื่องซักผ้า
ใช้ได้จริงไหม? หรือแค่หลอกกัน ไปดูกันเลย!!!
แถม!!! ลองล้างถังซัก ด้วยน้ำยาล้างห้องน้ำ
(อยู่ในคลิปเดียวกัน)
ผลลัพธ์เป็นอย่างไร ไปดูกันเลย!!!
.
คลิปนี้พิสูจน์แล้วว่า
ผงล้างเครื่องซักผ้า
ที่มีฤทธิ์ขจัดคราบสกปรกแรงๆ
ทำให้คราบหลุดออกได้บ้าง
แค่บางส่วนเท่านั้น
.
หรือ วิธีการต่างๆตาม internet
เช่น
ใช้น้ำส้มสายชูล้างเครื่องซักผ้า
ใช้เบคกิ้งโซดาล้างเครื่องซักผ้า
ใช้โซดาไฟล้างเครื่องซักผ้า
ใช้เม็ดฟู่ล้างเครื่องซักผ้า
ใช้น้ำยาล้างเครื่องซักผ้า
บลาๆๆๆ ทั้งหลายเหล่านี้
เมื่อใช้แล้วอาจมีสารเคมีตกค้าง
หรืออาจไปทำให้ชิ้นส่วนบางอย่างของเครื่อง
เกิดการสึกหรอ ผุกร่อน เสียหาย เร็วกว่าปกติ
อันนี้อันตรายต้องระวังด้วยครับ
.
คงไม่ต้องพูดถึงโหมดทำความสะอาดถัง
ที่ติดมากับเครื่องซักผ้า
มันคงทำให้ถังสะอาดไม่ได้แน่ๆ
.
แต่ไม่ว่าจะยังไง
วิธีต่างๆที่ว่ามานั้น
คุณจะไม่ได้เห็นผลลัพธ์ด้วยตา
เพราะความสกปรกของถัง
มันอยู่อีกด้านนึงของถัง
.
แต่ถ้าใช้บริการ ล้างเครื่องซักผ้า
“ล้างแบบถอดถัง”
คุณจะได้เห็นว่า ในนั้นมีคราบ มากน้อย แค่ไหน
แล้วเมื่อล้างเสร็จ คราบหมดไหม
หรือเหลือมากน้อยแค่ไหน
เห็นกับตาตัวเอง ดีกว่าวิธีการต่างๆเหล่านั้นแน่นอนครับ
และไม่ต้องห่วงเรื่องสารเคมีตกค้าง
เพราะเราล้างด้วยเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
โดยไม่ใช้สารเคมีใดๆ
.
#ระยะเวลาที่ควรจะล้าง?
อันนี้ตอบยากครับ
เพราะแต่ละคนใช้งานต่างกัน
ใช้ มาก-น้อย ต่างกัน
เราแนะนำล้างเครื่องซักผ้า 1-2 ปี/ครั้ง
ก็แล้วกัน ไม่มาก ไม่น้อย จนเกินไป
.
เพราะถ้าปล่อยเวลาเนินนานเกินไป
อาจทำให้คราบในถังฝั่งแน่น
และไม่สามารถล้างออกได้นะครับ
ตัวอย่างเคสที่ล้างไม่ออก <<< คลิก!!!
.
ส่วนใหญ่ เคสที่ล้างไม่ออก
เกิดจากสาเหตุเหล่านี้ครับ
1. ผู้ใช้คิดว่า ใช้โปรแกรมล้างถัง หรือ โหมดล้างถัง
แล้วจะทำให้ถังสะอาด ทั้งๆที่ใช้แล้วไม่เห็นด้วยตา
ว่ามันสะอาดหรือไม่
2. ผู้ใช้คิดว่า ใช้ผงล้างเครื่อง หรือ สารเคมีต่างๆ
หรือ วิธีการต่างๆตาม internet
แล้วจะทำให้ถังสะอาด ทั้งๆที่ใช้แล้วไม่เห็นด้วยตา
ว่ามันสะอาดหรือไม่
3. ผู้ใช้ให้เหตุผลว่า
“ตั้งแต่ซื้อมาไม่เคยล้าง เพราะไม่รู้ว่ามันต้องล้าง”
.
จะเป็นอย่างไร ถ้าไม่ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นเวลานาน . แม้เครื่องซักผ้าจะทำความสะอาดเสื้อผ้าสกปรกที่สุดของคุณ แต่สิ่งสกปรกเหล่านั้นก็ไม่ได้หายไปไหน มันถูกทิ้งไว้ภายในเครื่อง เกิดการสะสมของแบคทีเรีย มันเป็นเพราะเมื่อไม่ได้ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นประจำ สิ่งสกปรกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น จากน้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า ต่างๆเหล่านั้น จะสะสมรวมตัวกลายเป็น “คราบเหนียวบางๆ” ซึ่งกลายเป็นแหล่งหลบซ่อนที่ยอดเยี่ยมสำหรับแบคทีเรีย . ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ คราบแบคทีเรียหนาแน่นเหล่านี้จะเข้าไปรบกวนกลไกภายในของถังซัก ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการซักผ้าจึงลดลง นอกจากนี้ ภายในเครื่องซักผ้าเองก็มืดทึบ อับชื้น กลายเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับแบคทีเรียเจริญเติบโตได้อย่างยอดเยี่ยม . ดังนั้นอย่าลืม หมั่นทำความสะอาดเครื่องซักผ้าของคุณเป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดีและเสื้อผ้าที่สะอาดอย่างแท้จริง . . . กลิ่นเหม็นอับ . ถึงแม้จะไม่ร้ายแรงเท่ากับแบคทีเรีย แต่การดึงเสื้อผ้าที่เพิ่งซักเสร็จออกมาแล้วพบกลิ่นอับชื้น ก็เป็นเรื่องน่ารำคาญไม่แพ้กัน . สาเหตุหลักของกลิ่นเหม็นอับในเสื้อผ้าที่เพิ่งซักคือ . -ไม่รีบนำผ้าออกจากเครื่อง : ปล่อยให้ผ้าเปียกอยู่ในเครื่องนานๆ เพิ่มโอกาสเกิดกลิ่นอับ . -คราบน้ำยาปรับผ้านุ่ม : น้ำยาปรับผ้านุ่มแบบน้ำอาจทิ้งคราบเหนียวที่เกาะติดในเครื่อง ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น . -ไม่เช็ดขอบยางประตู : ยางขอบประตูเครื่องซักผ้าเป็นแหล่งสะสมความชื้น เชื้อรา และคราบสกปรก หากไม่ทำความสะอาดเป็นประจำ จะกลายเป็นแหล่งเพาะบ่มกลิ่นเหม็น . ป้องกันกลิ่นอับในเสื้อผ้า: . -รีบนำผ้าออกจากเครื่องทันทีหลังซัก -ใช้ผงซักฟอกแทนน้ำยาปรับผ้านุ่มแบบน้ำ -ทำความสะอาดยางขอบประตูเครื่องซักผ้าเป็นประจำ -เปิดฝาเครื่องทิ้งไว้หลังใช้งานเพื่อระบายความชื้น . และอย่างลืม ทำการบำรุงรักษาเครื่องซักผ้า ด้วยการ ล้างเครื่องซักผ้า แบบถอดถัง อย่างสม่ำเสมอ (ระยะเวลาตามช่างแนะนำ) #################
################# ชมเพจ คลิกลิงค์ https://www.facebook.com/AssistWash บริการอื่นๆ คลิกลิงค์ https://AssistWash.com/#service-blabla
#################
#################
ชมเพจ คลิกลิงค์
https://www.facebook.com/AssistWash
.
ผงทำความสะอาดเครื่องซักผ้า
น้ำยาทำความสะอาดเครื่องซักผ้า
น้ำยาล้างเครื่องซักผ้า
ผงทำความสะอาดเครื่องซักผ้า
น้ำยาทำความสะอาดเครื่องซักผ้า
น้ำยาล้างเครื่องซักผ้า